เจ้านายแบบไหนที่ลูกน้องต้องการ
ใน ที่ทำงานย่อมมี ทั้งเจ้านายและ ลูกน้อง ที่ต้องทำงานร่วมกัน เจ้านาย ส่วนใหญ่ ก็จะมีลูกน้อง ในฝันที่ อยากจะให้เป็น เช่น ขยันขันแข็ง ทำงานเต็มที่ จงรักภักดี ไม่มีป่วยไข้
ส่วนลูกน้องเอง ก็อยากมีเจ้านายในฝัน ที่พวกเขาต้องการด้วยเช่นกัน เดี๋ยวนี้ในองค์กรข้ามชาติ เขามีใยประเมินผลเจ้านายกันแล้ว และปิด ผนึกส่งกลับไปที่สำนักงานใหญ่อีกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่า ตรงตาม มาตรฐาน ที่บริษัทแม่ต้องการหรือเปล่า ลองสำรวจดูวิว่า เจ้านายแบบ ที่ได้ชื่อว่าเป็นนายที่ลูกน้องต้องการ
ตัดสินใจเด็ดขาด
เจ้านายที่ตัดสินอย่างเด็ดขาด และมักถูกต้องเสมอ มีเหตุมีผล พูดจาคำไหนคำนั้น ถือได้ว่าเป็นผู้นำที่ดีที่สุด ของลูกน้อง บางครั้งการตัดสินใจ ดูเหมือนจะใช้ความคิดของตนเป็นใหญ่ ไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ เพราะเขากำลัง อยู่ใน บทบาทซึ่งเป็นผู้นำ ถ้าผู้นำมีความมุ่งมั่น ตัดสินใจเร็ว ไม่โลเล เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ่อยๆ ลูกน้องก็จะเกิดความมั่นใจเชื่อถือ และสามารถทำงานได้โดยไม่สะดุดบ่อยๆ
มีเป้าหมายชัดเจน
นอกจากจะเฉียบขาดแล้ว นายที่มีจุดยืน มีอุดมการณ์ หรือมี จุดหมายที่ชัดเจน ก็เป็นที่ต้องการเป็นอย่างยิ่ง จุดหมายที่ องค์กรมีร่วมกัน โดยมีนายเป็นผู้นำนั้น ก็เหมือนกับเส้น หลักชัย ที่ต้องเดินไปให้ถึง ถ้ามีจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน แล้ว เราก็ สามารถมุ่งหน้า ไปยังจุดๆนั้นได้ง่าย และเร็วขึ้น เพราะเรารู้ว่าเรา กำลังทำอะไรอยู่ คนที่รู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่นั้น ย่อมดีกว่า เดินไป คิดลังเลไป เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เดี๋ยวเยสเดี๋ยวโน จริงไหมคะ
รู้จักใช้คน
Put he right man in the right job . ยังใช้ได้ดีในทุกสถานการณ์ และทุกที่ นายที่ดีต้องรู้จักลุกน้องของตนว่าใครเหมาะที่จะทำอะไร งานไหนควรให้ใครรับผิดชอบ คนไหนเก่งอะไรแต่มี ข้อบกพร่อง ไปบ้าง ก็พยายามแก้ไขให้เขาสมบูรณ์แบบขึ้น ใครขาดใคร เกินส่วนไหน ก็ปรับแต่งให้ลงตัว จึงจะเรียกว่า บริหารคนเป็น การรู้จักนิสัยใจคอ ความชอบส่วนตัวของลูกน้อง นอกจากจะทำให้ ได้งาน ที่มีประสิทธิภาพขึ้นแล้ว ยังเป็นข้อหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่า เจ้านายใส่ใจลูกน้องเป็นอย่างดี
ซื่อสัตย์
นอกจากจะเป็นคนที่ทำงานเก่งแล้ว เจ้านายตัวอย่าง ควรจะมี ความซื่อสัตย์ ต่อองค์กรด้วย บริหารค่าใช้จ่ายภายในอย่างเป็น ธรรมถูกต้อง ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบ ให้กลายเป็นที่ วิพากษ์ วิจารณ์ได้ การมีเจ้านายเป็นคนเก่ง และเป็นคนดีที่ ไว้ใจได้ อาจพูดได้ว่า เป็นโชคดีชั้นหนึ่งของลูกน้อง ที่ได้ร่วมงานด้วย เลยทีเดียว
สนับสนุนลูกน้อง
นายที่ดีต้องให้โอกาสลูกน้อง หรือผู้ใต้บังคับบัญชา ได้มีโอกาส ทำงาน ที่พิสูจน์ความสามารถของตนเองด้วย งานใดจะส่งเสริม ให้ความ สามารถของลูกน้อง โดดเด่นเป็นที่ยอมรับ ก็ควรสนับ สนุน ไม่ใช่ แย่งผลงานของลูกน้องมาเป็นผลงานของ ตัวเอง หมดเสียทุกครั้งไป ให้โอกาสเขาได้เจริญเติบโต พร้อมทั้งผลักดัน สนับสนุน ให้สร้างเสริม ความสามารถขึ้นเรื่อยๆ เจ้านายที่ดีต้อง สร้าง ลูกน้อง ให้เก่งขึ้นกว่า เดิม เพื่อที่เขา จะมาทำงานแทนเรา ได้ในอนาคต
มีมนุษยสัมพันธ์ดี
นายที่ดีต้องมีมนุษยสัมพันธ์ดี ทั้งในและนอกองค์กร บางครั้ง นอก องค์กรนายอาจ จะเป็น คนนิสัยเยี่ยม อัธยาศัยดี น่า คบหา แต่กับคนใครใกล้ตัว อย่างลูกน้องที่ ใกล้ชิด
นายอาจ จะหลงลืมหรือละเลย ไปบ้างแต่นายที่ดีต้องไม่ลืมข้อนี้ แค่ทักทาย ถามไถ่ทุกข์สุขลูกน้อง ขอบคุณ เมื่อเขาทำงานให้ ให้รางวัลหรือคำชมเชยว่า Well done เป็นต้น นายที่ดีต้องรู้จักยืดหยุ่นมีอารมณ์ขัน อาจมีการพบปะ สังสรรค์กัน นอกเวลางานบ้าง จะช่วยสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน และจะส่ง ผลให้การทำงานราบรื่นยิ่งขึ้น
รับฟังความคิดเห็นของลูกน้องบ้าง
เจ้านายที่เอาแต่พูดๆ ฝ่ายเดียวโดยไม่ฟังความคิดเห็น หรือคำ อธิบาย ของลูกน้องเลย เป็นเจ้านายที่ปิดกั้นตัวเองอย่างยิ่ง แน่นอนว่าเจ้านาย มักมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลกว่า มีความรู้ มากกว่า ลูกน้อง แต่การไม่ยอมรับ ฟังอะไรจากใครเลย ก็ไม่เป็น ผลดี ลูกน้องอาจมีข้อเสนอดีๆ ที่นายมอง ข้ามไป หรืออาจมีคำ อธิบาย ที่ฟังขึ้น ในความผิดพลาดของงานที่นาย มองไม่เห็น การฟังลูกน้อง พูดหรืออธิบายบ้าง จะช่วยให้ลูกน้องทำงานอย่าง สบายใจ ไม่รู้สึก กดดันมากนัก เมื่อมีปัญหาเขาจะกล้ามาถามหรือ เสนอแนะในข้อ ที่เขาเห็นว่า เป็นทางเลือกที่ดี ฟังลูกน้องให้มาก ขึ้น เพียงนิดหน่อย ก็อาจช่วยให้คุณเป็นนายที่น่ารักขึ้น อีกมาก เชียวค่ะ
เป็นตัวอย่างที่ดีในการเข้างาน
ไม่ใช่ตัวหัวหน้า มาทำงานเกือบเที่ยงเป็นประจำ ทั้งๆที่เวลาเข้า ทำงาน 8.30 น. แต่คาดหวังให้ลูกน้องมาเช้า ก็จะเกิดช่องว่างแก่การ ครหาได้เช่นกัน หรือเจ้านายเอาแต่สีซออู้ เถรไถลไปโน่นมานี่ ลูกน้องที่เป็นสายพันธุ์เดียวกันก็เอาอย่างได้ โดยที่ลูกน้องคนอื่นๆ ก็เริ่มครหาสนุกปากทั่วองค์กร
บุคลิกภาพต้องดีเยี่ยม
ข้อนี้ไม่น่ามองข้ามเลย เจ้านายควรเป็นผู้มีบุคลิกดี แต่งกาย เหมาะสม กับรูปร่าง ฐานะทางสังคม ต้องสะอาด สุภาพเข้างานสังคม ได้ อย่างไม่ขัดหูขัดตา และมีบุคลิกเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป ถ้าคุณเป็นนายที่เก่งเป็นเลิศอยู่แล้ว แตบุคลิกภาพแย่ ก็ยังมีข้อ บกพร่อง ให้ลูกน้องรู้สึกไม่ดีได้ ดังนั้นอย่าตกม้าตาย ด้วยเรื่องง่ายๆ
บุคลากรต้องมีให้พอ เครื่องมืออุปกรณ์ต้องครบ งบประมาณมีให้
ถ้าเจ้า นายมีลูกน้องที่ดี มีความสามารถ และประสบการณ์ อยู่แล้วแต่ ไม่มีผู้ช่วยให้ เพราะประหยัดงบทรัพยากรบุคคล งานก็จะล่าช้าลง เช่น เจ้านายจะกินแกงสักถ้วย ลูกน้องต้องขึ้นต้นมะพร้าวเอง เตะลงมา ปลอกเอง ขูดมะพร้าว ตำน้ำพริก หั่นเนื้อ ติดไฟเอง โดยไม่มีใครช่วย กว่าจะได้กินแกงสักถ้วยก็คงจะถึงตีสี่ แต่หากมี บุคลากรให้ครบ กระจายงานออกไป งานจะเพิ่มผลผลิตเร็วขึ้น มากขึ้น หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือสื่อสารคล่องตัว บวกกับงบประมาณที่มีให้เพียงพอ ที่จะสามารถจัดกิจกรรมต่างๆ ตามสมควร ลูกน้องก็จะทำงานได้อย่างคล่องตัว สบายใจ และผลผลิตที่ได้มาตราฐานก็จะตามมา