เจ้านายแบบไหนที่ลูกน้องต้องการ

ใน ที่ทำงานย่อมมี ทั้งเจ้านายและ ลูกน้อง ที่ต้องทำงานร่วมกัน เจ้านาย ส่วนใหญ่ ก็จะมีลูกน้อง ในฝันที่ อยากจะให้เป็น เช่น ขยันขันแข็ง ทำงานเต็มที่ จงรักภักดี ไม่มีป่วยไข้
ส่วนลูกน้องเอง ก็อยากมีเจ้านายในฝัน ที่พวกเขาต้องการด้วยเช่นกัน เดี๋ยวนี้ในองค์กรข้ามชาติ เขามีใยประเมินผลเจ้านายกันแล้ว และปิด ผนึกส่งกลับไปที่สำนักงานใหญ่อีกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่า ตรงตาม มาตรฐาน ที่บริษัทแม่ต้องการหรือเปล่า ลองสำรวจดูวิว่า เจ้านายแบบ ที่ได้ชื่อว่าเป็นนายที่ลูกน้องต้องการ
ตัดสินใจเด็ดขาด
เจ้านายที่ตัดสินอย่างเด็ดขาด และมักถูกต้องเสมอ มีเหตุมีผล พูดจาคำไหนคำนั้น ถือได้ว่าเป็นผู้นำที่ดีที่สุด ของลูกน้อง บางครั้งการตัดสินใจ ดูเหมือนจะใช้ความคิดของตนเป็นใหญ่ ไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ เพราะเขากำลัง อยู่ใน บทบาทซึ่งเป็นผู้นำ ถ้าผู้นำมีความมุ่งมั่น ตัดสินใจเร็ว ไม่โลเล เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ่อยๆ ลูกน้องก็จะเกิดความมั่นใจเชื่อถือ และสามารถทำงานได้โดยไม่สะดุดบ่อยๆ
มีเป้าหมายชัดเจน
นอกจากจะเฉียบขาดแล้ว นายที่มีจุดยืน มีอุดมการณ์ หรือมี จุดหมายที่ชัดเจน ก็เป็นที่ต้องการเป็นอย่างยิ่ง จุดหมายที่ องค์กรมีร่วมกัน โดยมีนายเป็นผู้นำนั้น ก็เหมือนกับเส้น หลักชัย ที่ต้องเดินไปให้ถึง ถ้ามีจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน แล้ว เราก็ สามารถมุ่งหน้า ไปยังจุดๆนั้นได้ง่าย และเร็วขึ้น เพราะเรารู้ว่าเรา กำลังทำอะไรอยู่ คนที่รู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่นั้น ย่อมดีกว่า เดินไป คิดลังเลไป เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เดี๋ยวเยสเดี๋ยวโน จริงไหมคะ
รู้จักใช้คน
Put he right man in the right job . ยังใช้ได้ดีในทุกสถานการณ์ และทุกที่ นายที่ดีต้องรู้จักลุกน้องของตนว่าใครเหมาะที่จะทำอะไร งานไหนควรให้ใครรับผิดชอบ คนไหนเก่งอะไรแต่มี ข้อบกพร่อง ไปบ้าง ก็พยายามแก้ไขให้เขาสมบูรณ์แบบขึ้น ใครขาดใคร เกินส่วนไหน ก็ปรับแต่งให้ลงตัว จึงจะเรียกว่า บริหารคนเป็น การรู้จักนิสัยใจคอ ความชอบส่วนตัวของลูกน้อง นอกจากจะทำให้ ได้งาน ที่มีประสิทธิภาพขึ้นแล้ว ยังเป็นข้อหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่า เจ้านายใส่ใจลูกน้องเป็นอย่างดี
ซื่อสัตย์
นอกจากจะเป็นคนที่ทำงานเก่งแล้ว เจ้านายตัวอย่าง ควรจะมี ความซื่อสัตย์ ต่อองค์กรด้วย บริหารค่าใช้จ่ายภายในอย่างเป็น ธรรมถูกต้อง ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบ ให้กลายเป็นที่ วิพากษ์ วิจารณ์ได้ การมีเจ้านายเป็นคนเก่ง และเป็นคนดีที่ ไว้ใจได้ อาจพูดได้ว่า เป็นโชคดีชั้นหนึ่งของลูกน้อง ที่ได้ร่วมงานด้วย เลยทีเดียว
สนับสนุนลูกน้อง
นายที่ดีต้องให้โอกาสลูกน้อง หรือผู้ใต้บังคับบัญชา ได้มีโอกาส ทำงาน ที่พิสูจน์ความสามารถของตนเองด้วย งานใดจะส่งเสริม ให้ความ สามารถของลูกน้อง โดดเด่นเป็นที่ยอมรับ ก็ควรสนับ สนุน ไม่ใช่ แย่งผลงานของลูกน้องมาเป็นผลงานของ ตัวเอง หมดเสียทุกครั้งไป ให้โอกาสเขาได้เจริญเติบโต พร้อมทั้งผลักดัน สนับสนุน ให้สร้างเสริม ความสามารถขึ้นเรื่อยๆ เจ้านายที่ดีต้อง สร้าง ลูกน้อง ให้เก่งขึ้นกว่า เดิม เพื่อที่เขา จะมาทำงานแทนเรา ได้ในอนาคต
มีมนุษยสัมพันธ์ดี
นายที่ดีต้องมีมนุษยสัมพันธ์ดี ทั้งในและนอกองค์กร บางครั้ง นอก องค์กรนายอาจ จะเป็น คนนิสัยเยี่ยม อัธยาศัยดี น่า คบหา แต่กับคนใครใกล้ตัว อย่างลูกน้องที่ ใกล้ชิด
นายอาจ จะหลงลืมหรือละเลย ไปบ้างแต่นายที่ดีต้องไม่ลืมข้อนี้ แค่ทักทาย ถามไถ่ทุกข์สุขลูกน้อง ขอบคุณ เมื่อเขาทำงานให้ ให้รางวัลหรือคำชมเชยว่า Well done เป็นต้น นายที่ดีต้องรู้จักยืดหยุ่นมีอารมณ์ขัน อาจมีการพบปะ สังสรรค์กัน นอกเวลางานบ้าง จะช่วยสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน และจะส่ง ผลให้การทำงานราบรื่นยิ่งขึ้น
รับฟังความคิดเห็นของลูกน้องบ้าง
เจ้านายที่เอาแต่พูดๆ ฝ่ายเดียวโดยไม่ฟังความคิดเห็น หรือคำ อธิบาย ของลูกน้องเลย เป็นเจ้านายที่ปิดกั้นตัวเองอย่างยิ่ง แน่นอนว่าเจ้านาย มักมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลกว่า มีความรู้ มากกว่า ลูกน้อง แต่การไม่ยอมรับ ฟังอะไรจากใครเลย ก็ไม่เป็น ผลดี ลูกน้องอาจมีข้อเสนอดีๆ ที่นายมอง ข้ามไป หรืออาจมีคำ อธิบาย ที่ฟังขึ้น ในความผิดพลาดของงานที่นาย มองไม่เห็น การฟังลูกน้อง พูดหรืออธิบายบ้าง จะช่วยให้ลูกน้องทำงานอย่าง สบายใจ ไม่รู้สึก กดดันมากนัก เมื่อมีปัญหาเขาจะกล้ามาถามหรือ เสนอแนะในข้อ ที่เขาเห็นว่า เป็นทางเลือกที่ดี ฟังลูกน้องให้มาก ขึ้น เพียงนิดหน่อย ก็อาจช่วยให้คุณเป็นนายที่น่ารักขึ้น อีกมาก เชียวค่ะ
เป็นตัวอย่างที่ดีในการเข้างาน
ไม่ใช่ตัวหัวหน้า มาทำงานเกือบเที่ยงเป็นประจำ ทั้งๆที่เวลาเข้า ทำงาน 8.30 น. แต่คาดหวังให้ลูกน้องมาเช้า ก็จะเกิดช่องว่างแก่การ ครหาได้เช่นกัน หรือเจ้านายเอาแต่สีซออู้ เถรไถลไปโน่นมานี่ ลูกน้องที่เป็นสายพันธุ์เดียวกันก็เอาอย่างได้ โดยที่ลูกน้องคนอื่นๆ ก็เริ่มครหาสนุกปากทั่วองค์กร
บุคลิกภาพต้องดีเยี่ยม
ข้อนี้ไม่น่ามองข้ามเลย เจ้านายควรเป็นผู้มีบุคลิกดี แต่งกาย เหมาะสม กับรูปร่าง ฐานะทางสังคม ต้องสะอาด สุภาพเข้างานสังคม ได้ อย่างไม่ขัดหูขัดตา และมีบุคลิกเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป ถ้าคุณเป็นนายที่เก่งเป็นเลิศอยู่แล้ว แตบุคลิกภาพแย่ ก็ยังมีข้อ บกพร่อง ให้ลูกน้องรู้สึกไม่ดีได้ ดังนั้นอย่าตกม้าตาย ด้วยเรื่องง่ายๆ
บุคลากรต้องมีให้พอ เครื่องมืออุปกรณ์ต้องครบ งบประมาณมีให้
ถ้าเจ้า นายมีลูกน้องที่ดี มีความสามารถ และประสบการณ์ อยู่แล้วแต่ ไม่มีผู้ช่วยให้ เพราะประหยัดงบทรัพยากรบุคคล งานก็จะล่าช้าลง เช่น เจ้านายจะกินแกงสักถ้วย ลูกน้องต้องขึ้นต้นมะพร้าวเอง เตะลงมา ปลอกเอง ขูดมะพร้าว ตำน้ำพริก หั่นเนื้อ ติดไฟเอง โดยไม่มีใครช่วย กว่าจะได้กินแกงสักถ้วยก็คงจะถึงตีสี่ แต่หากมี บุคลากรให้ครบ กระจายงานออกไป งานจะเพิ่มผลผลิตเร็วขึ้น มากขึ้น หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือสื่อสารคล่องตัว บวกกับงบประมาณที่มีให้เพียงพอ ที่จะสามารถจัดกิจกรรมต่างๆ ตามสมควร ลูกน้องก็จะทำงานได้อย่างคล่องตัว สบายใจ และผลผลิตที่ได้มาตราฐานก็จะตามมา
Future young talents want to work for global brands
8:49 PM | Author: MoOkie Yupster

Friday, October 30, 2009


The Swedish employer branding agency Universum has made a Top-50 list of brands that young talents want to work for. It is remarkable that there are only 2 Asian brands among the global Top 50 - namely SONY and HSBC.


November 19, 2007
โดย เจริญชัย ไชยไพบูลย์วงศ์ : Siam Intelligence Unit
บทความนี้เป็น ตอนที่ 4 ของ Series เรื่องยาว Non Linear Economics ซึ่งผมพยายามสร้างสรรค์กำนัลแด่ท่านผู้ฟัง โดยในตอนนี้ได้หยิบยืมวาทะเด็ดของนักเศรษฐศาสตร์ชื่อก้องโลก Joseph Schumpeter มาเป็นชื่อตอน “การทำลายอย่างสร้างสรรค์ Creative Destruction” แต่ในที่สุด ผมตัดสินใจแบ่งเป็น 2 ตอนย่อย ให้ชื่อตอนแรกแบบ Cool Cool ว่า


August 5, 2009
คนเราทุกคนล้วนเติบโตมาพร้อมกับ “ความฝัน” แต่จะมีใครสักกี่คนที่ได้ทำในสิ่งที่ฝันไว้
อย่างไรก็ตาม ในยุคโลกาภิวัตน์อันเปิดกว้างเสรีนั้น ได้ช่วยทำให้ “ทุกคน” สามารถทำตามความฝันได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้และความมั่นคงอีกต่อไป เนื่องจากว่า “ทุกความฝัน” สามารถแปรเปลี่ยนเป็นเงินได้ ขอเพียงแต่ “ความฝัน” นั้นมีคุณค่า


July 2, 2010
บทความนี้แปลมาจากส่วนหนึ่งของหนังสือ In the Company of Giants: Candid Conversations with the Visionaries of the Digital World โดยเป็นการสัมภาษณ์ Steve Jobs เจ้าของบริษัท Apple เกี่ยวกับแนวคิดและมุมมองในการคัดเลือก “สุดยอดคนเก่ง” มาร่วมงานกับบริษัท
“คนเก่ง” ประเภทไหนที่คุณเฟ้นหาและว่าจ้างตั้งแต่บริษัท Apple ไปจนถึง NeXT และ Pixar ?
ผมมักจะสนใจคนเก่งที่รู้จักทำงานร่วมกับคนอื่น งานที่สำคัญของบริษัทไม่เคยสำเร็จได้จากแรงงานเพียง 2-3 คน มนุษย์บางคนสามารถทำงานชิ้นเดียวได้ล้ำเลิศเช่นเดียวกับ Michelangelo แต่ก็มีงานบางอย่าง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ และ เครื่องบินโบอิ้ง 747 ซึ่งต้องการกลุ่มคนที่หลากหลายมาร่วมกันสร้างสรรค์
ในการทำงานที่ต้องใช้ทักษะของคนที่หลากหลายให้ดีเลิศนั้น คุณต้องเลือกเฟ้นเฉพาะคนที่พิเศษสุดเท่านั้น


October 26, 2007
โดย เจริญชัย ไชยไพบูลย์วงศ์ : Siam Intelligence Unit
1. ความปวดร้าวของ Taxi : ในชะตากรรมประเทศ มีชะตากรรมบุคคล
ผมได้มีโอกาสสนทนาแลกเปลี่ยนกับ Taxi ได้รับฟังความรู้สึกที่เจ็บปวดจิตใจ เพราะผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ


November 29, 2007
โดย เจริญชัย ไชยไพบูลย์วงศ์ : Siam Intelligence Unit
ชื่อบทความนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากคำกล่าวของขงจื้อ ซึ่งนำมาอ้างอิงในหนังสือ “รัฐศาสตร์ถังไท่จง” ของ คุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ผมได้รับการจุดประกายจากคุณก่อศักดิ์มากมาย เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2550


July 2, 2010
“สุดยอดแท็กซี่ทำให้คุณถึงที่หมายเร็วขึ้น 20 เปอร์เซนต์ แต่การจ้างสุดยอดอัจฉริยะเข้ามาทำงานในบริษัท คุณจะได้ผลงานที่ดีกว่าเดิม 100 เท่า”


June 11, 2010
“โลกาภิวัตน์” ได้ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนบนโลกใบนี้ มีความร้อยรัดใกล้ชิดกันยิ่งกว่ายุคใดในประวัติศาสตร์

สัมมนาวิทยานิพนธ์หัวข้อ “การละเมิดลิขสิทธิ์: มุมมองเชิงเศรษฐศาสตร์”

November 29, 2007
เรื่องที่ 1 “กลยุทธ์การแข่งขันระหว่างซอฟแวร์ระบบปิดและระบบเปิด: นัยต่อการละเมิดลิขสิทธิ์”
(Competition Strategy between Proprietary and Open Source Software and Intensity of Piracy Monitoring)
โดย : ดร.ปนัดดา ปราชญ์นิวัฒน์
เรื่องที่ 2 “เพลงละเมิดลิขสิทธิ์กระทบยอดขายซีดีเพลงหรือไม่?”
(The Effect of Music Piracy on CDs Purchases)
โดย: คุณศิวัช อ่วมประดิษฐ์
ผู้วิจารณ์: รศ.ดร.ชยันต์ ตันติวัสดาการ และ รศ.ดร.ชนินทร์ มีโภคี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผู้ดำเนินรายการ : อ.วศิน ศิวสฤษดิ์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วันเวลา : วันพุธที่ 19 ธันวาคม 2550 เวลา 13.00 – 15.30 น.
สถานที่ : ห้องประชุมชั้น 5 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

http://www.siamintelligence.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B9%89/

สถิติและการจัดอันดับเว็บไซต์ไทยในเชิงรายได้

July 28, 2010
โดย ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ (ป้อม) ผู้เชี่ยวชาญด้าน E-Commerce & E-Marketing และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Tarad.com
50 ผู้นำโลกยุคใหม่
7:53 PM | Author: MoOkie Yupster

50 ผู้นำโลกยุคใหม่

December 25, 2008
นิตยสาร Newsweek ฉบับสุดท้ายของปี 2008 ได้จัดอันดับผู้นำที่ทรงอิทธิพลต่อโลก 50 คน โดยมีรางชื่อดังนี้
ที่มา – Newsweek
(หมายเหตุ: บางอันดับเป็นผู้นำร่วม หรือผู้ที่อยู่ในทีม-องค์กรเดียวกัน)
  • 1: Barack Obama – ประธานาธิบดีสหรัฐ
  • 2: Hu Jintao – ประธานาธิบดีจีน
  • 3: Nicolas Sarkozy – ประธานาธิบดีฝรั่งเศส
  • 4-5-6: Economic Triumvirate – ผู้กุมชะตาทางเศรษฐกิจของโลก ประกอบด้วย Ben Bernanke ประธานธนาคารกลางสหรัฐ, Jean-Claude Trichet ประธานธนาคารกลางยุโรป และ Masaaki Shirakawa ประธานธนาคารกลางญี่ปุ่น
  • 7: Gordon Brown – นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร
  • 8: Angela Merkel – นายกรัฐมนตรีเยอรมนี
  • 9: Vladimir Putin – นายกรัฐมนตรีรัสเซีย
  • 10: Abdullah bin Abdulaziz Al-Saud – กษัตริย์ของซาอุดิอาระเบีย
  • 11: Ayatollah Ali Khamenei – ผู้นำทางศาสนาของอิหร่าน
  • 12: Kim Jong Il – ผู้นำเกาหลีเหนือ
  • 13-14: The Clintons – บิล คลินตัน และฮิลลารี คลินตัน
  • 15: Timothy Geithner – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของโอบามา
  • 16: Gen. David Petraeus – ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐในอิรัก
  • 17: Sonia Gandhi – ประธานพรรคคองเกรสของอินเดีย
  • 18: Luiz Inácio Lula da Silva – ประธานาธิบดีบราซิล
  • 19: Warren Buffett – นักลงทุนและมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก
  • 20: Gen. Ashfaq Parvez Kayani – ผู้บัญชาการกองทัพบกของปากีสถาน
  • 21: Nuri al-Maliki – นายกรัฐมนตรีอิรัก
  • 22-23: The Philanthropists – บิล เกตส์ และเมลินดา ภรรยา ในฐานะเจ้าของมูลนิธิช่วยเหลือสังคมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  • 24: Nancy Pelosi – ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ พรรคเดโมแครต
  • 25: Khalifa bin Zayed Al Nahyan – ประธานาธิบดีของอาหรับเอมิเรตส์
  • 26: Mike Duke – ซีอีโอของ Wal-mart บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ
  • 27: Rahm Emanuel – ผู้อำนวยการทำเนียบขาวของโอบามา
  • 28: Eric Schmidt – ซีอีโอของกูเกิล
  • 29: Jamie Dimon – ซีอีโอของ JP Morgan Chase
  • 30-31: Friends of Barack – ประกอบด้วย David Axelrod หัวหน้าทีมหาเสียงของโอบามา และ Valerie Jarret หนึ่งในที่ปรึกษาของโอบามา
  • 32: Dominique Strauss-Kahn – ผู้อำนวยการกองทุน IMF
  • 33: Rex Tillerson – ซีอีโอของ ExxonMobil (เอสโซ่)
  • 34: Steve Jobs – ซีอีโอของแอปเปิล
  • 35: John Lasseter – ซีอีโอของ Pixar Animation (ปัจจุบันเป็นบริษัทลูกของดิสนีย์)
  • 36: Michael Bloomberg – นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก
  • 37: Pope Benedict XVI – พระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน
  • 38: Katsuaki Watanabe – ซีอีโอของโตโยต้า
  • 39: Rupert Murdoch – ซีอีโอของ News Corporation (เจ้าของสื่อขนาดใหญ่)
  • 40: Jeff Bezos – ซีอีโอของ Amazon.com
  • 41: Shahrukh Khan – ดาราภาพยนตร์จากอินเดียชื่อดัง
  • 42: Osama bin Laden – ผู้ก่อการร้าย
  • 43: Hassan Nasrallah – ผู้นำชบวนการต่อสู้ของเลบานอนต่ออิสราเอล
  • 44: Dr. Margaret Chan – ผู้อำนวยการองค์การสุขภาพโลก (World Health Organization – WHO)
  • 45: Carlos Slim Helú – มหาเศรษฐีอันดับสามของโลก ชาวเม็กซิโก เจ้าของกิจการโทรคมนาคมหลายแห่ง
  • 46: The Dalai Lama – ผู้นำทางศาสนาของทิเบต
  • 47: Oprah Winfrey – พิธีกรโทรทัศน์ของสหรัฐ
  • 48: Amr Khaled – พิธีกรโทรทัศน์ของอียิปต์
  • 49: E. A. Adeboye – ผู้นำศาสนาคริสต์ในไนจีเรีย
  • 50: Jim Rogers – ซีอีโอของ Duke Energy บริษัทพลังงานท

เพื่อนมีกี่แบบ ใครที่ควรคบ

" เพื่อน " เป็นส่วนสำคัญของมนุษย์ทุกคน บางคนจะเป็นจะตายก็เพราะเพื่อนนี่แหละเป็นผู้ชี้ขาด ไม่ใช่พ่อแม่พี่น้อง หรือสมาชิกในครัวเรือน เพราะธรรมชาติของมนุษย์ สามารถพูดคุยทุกเรื่องกับเพื่อนได้ แต่กับคนในครอบครัวกลับไม่กล้า แต่ใช่ว่ามีเพื่อนมากจะดีเสมอไป เพราะมีเพื่อนมาก เรื่องก็ย่อมมากตามจำนวนเพื่อน ตรงข้ามหากไม่มีเสียเลย ให้อยู่คนเดียวคงเหงาไม่ใช่เล่น

ยิ่งยุคนี้เศรษฐกิจฝืด เคือง มีเพื่อนเอาไว้บ่นเรื่องเงินๆ ทองๆ ก็ยังดีกว่าไม่มีที่ระบาย จากการรวบรวมด้วยการจำแนกเพื่อนออกตามสันดาน เอ๊ย...ลักษณะนิสัยต่างๆ จากบันทึกของคนสมถะเอง " เพื่อน" มีหลายชนิดมาก ท่านผู้ชม นับตั้งแต่

เพื่อนที่แสนจะเอาเปรียบ ไล่เรียงมาตั้งแต่เห็นแก่ตัว , เห็นแก่ได้ และเห็นแก่กิน แม้จะไม่อยากมีเพื่อนประเภทนี้เท่าไหร่ แต่ไม่รู้เป็นไง ทุกคนเป็นต้องมีเพื่อนอย่างนี้ปะปนอยู่เสมอกระนั้น อันความเห็นแก่ตัว ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เพราะมนุษย์ทุกคน มีสัญชาตญาณของการรักษาตัวรอดเป็นยอดดีด้วยกันทั้งนั ้น แต่ถ้าดีกรีของความเห็นแก่ตัวไม่แรงกล้าเท่าไหร่ จะมีคนอยากคบค้าสมาคมกับเรามากขึ้น

การมีเพื่อนแบบนี้ (ไม่รู้ว่าสมควรให้เป็นเพื่อนดีไหม) ก็เก๋ไปอย่าง เพราะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้รู้จักความเป็นคนม ากขึ้น หากมัวแต่มีเพื่อนดีๆ แต่ไม่มีเลวซะเลย เราคงมองไม่เห็น เส้นแบ่งระหว่างสองสิ่งนี้สิจ๊ะ

เพื่อนช่างนินทา-พูดจา ไร้สาระ แบบนี้ยิ่งหาง่ายเข้าไปใหญ่ ในสังคมต้องมีคนเหล่านี้ ไม่งั้นคงแห้งแล้งน่าดู การนินทาก็บอกอยู่ในตัวแล้วว่า สามารถพูดได้ทั้งเรื่องจริงและไม่รู้จริง คนฟังก็ควรไปเจาะหูให้เกิดน้ำหนักถ่วงดุล เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ ไว้ล่วงหน้า

เพื่อนปากร้าย ใจดี อย่างนี้น่าคบกว่าเพื่อนที่ปากและใจร้ายทั้งคู่

เพื่อน ปากหวาน ดูดี แต่ร้ายลึก หาได้ตามองค์กรทั่วไป แต่เชื่อขนมกินได้ว่า คนแบบนี้ต้องมีอย่างอื่นดีสักประการหนึ่ง ไม่งั้นคงไม่มีใครอยากคุยด้วย

เพื่อน ซื่อสัตย์และจริงใจ เป็นสุดยอดปรารถนาที่ทุกคนหมายปอง

กำลังใจเล็ก เล็ก จากตัวเอง...



สะพานข้ามแม่น้ำที่กว้างใหญ่
เกิดขึ้นได้เพราะนิ้วมือเล็ก ๆ ช่วยกัน

รังนกที่อบอุ่น
เกิดจากฟาง หญ้า เส้นเล็ก ๆ ทีละเส้น ทีละเส้น

บ้านใหญ่ โต
เริ่มจากอิฐก้อนเล็ก ๆ ทีละก้อน ทีละก้อน

ต้นไม้ที่ใหญ่ที่ สุด
เติบโตจากพันธุ์ไม้เล็ก ๆ

ฝันเป็นจริงที่ยิ่งใหญ่
เติบโตจากฝันเล็ก ๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ในใจ

ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มจากเรื่อง เล็ก ๆ สิ่งเล็ก ๆ
ก่อตัวขึ้นทุกวัน อย่างสม่ำเสมอ

แน่นอนระหว่าง ทาง ย่อมต้องเจอเรื่องราวที่เจ็บปวด
เจ็บกาย เจ็บใจ เจอทุกข์ภัย
เจอความเจ็บปวดที่ไม่เคยคาดคิด

ณ วินาที เหมือนเจอทางตัน หันไปทางไหนดีละ
ทางนั้นก็มืด ทางโน้นก็ไม่มีใครคอยช่วยเหลือ ..
จิตใจเริ่มร้อนรน
ร่างกายเริ่มกระสับกระส่ายตามจิตใจ
สมองเริ่มหยุด คิด ....หายใจถี่เร็ว...

ทำไมฉันถึงได้ร้อนรนอย่างนี้ ทรมาณเหลือเกิน...

ในที่สุด เมื่อทำอะไรไม่ได้
ทรุดกายลงนั่งอยู่ตรงนั้น
มองรอบกายด้วยใจนิ่ง
หายใจเข้าออกอย่างเป็นปกติ
...........

ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ มองทางออก
ตอนนี้ยังไม่รู้จะลุกไปทางไหน
แต่ ฉันก็ไม่ร้อนรน ไม่ไขว่คว้าจนรู้สึกเหนื่อย ..
ฉันกำลังสร้าง กำลังใจเล็ก ๆ ในมุมมืดที่ยังหาทางไม่เจอ...
และสักวัน กำลังใจฉันจะต้องเติบใหญ่ ด้วยมีความอดทนช่วยหล่อเลี้ยง...

ความอดทนและกำลังใจ เล็ก ๆ จากตัวเอง...

เงิน หรือ ความเอาใจใส่ มีค่ามากกว่ากัน




 









 
แม่กับเจ้านาย ที่ลูกทุกคนควรอ่าน
 
 
 



แม่ของฉัน กับเจ้านายของฉัน ......... ใคร เคยทำกับแม่แบบนี้บ้าง ?

ทุกวัน ฉันต้องตื่นเช้า เข้างานแปดโมง วันนี้..ก็เหมือนเคย
แต่เมื่อคืนฉันทำงานจนดึก
ตื่นสาย.. อารมณ์ตอนนั้น โมโหตัวเองมาก ที่ลืมตั้งนาฟิกาปลุก
( โดนเจ้านายด่าแน่ๆ )

แม่มาเคาะประตูห้อง ...
 “ ตื่นหรือยังลูก หกโมงแล้ว “
ฉันหงุดหงิดมาก ........... โธ่ !! แล้วทำไมแม่ไม่ปลุกหนูให้เร็วกว่านี้
เนี่ย..หนูไปทำงานไม่ทันแล้ว วันนี้..มีประชุมด้วย
“ แม่ทำข้าวต้มให้หนูอยู่ เมื่อคืนเห็นนอนดึก
อยาก ให้กินอะไรร้อนๆหน่อย “ ........
แม่ไม่ต้องมาพูดเลย ไม่กง ไม่กินมันแล้ว
.... แม่จับแขนฉันเบาๆก่อนเดินออกจากห้อง
อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ ลงมาข้างล่าง แม่นั่งร ออยู่ที่โต๊ะกินข้าว
“ กินข้าวต้มกับแม่ก่อนนะลูกนะ แม่รอหนูอยู่ “
หนูไม่กิน พูดโดยไม่มองหน้าแม่ เดินออกมาจากบ้านทันที

ถึงที่ทำงาน
“ ไม่รู้หรืองัย ว่าวันนี้มีประชุม แล้วรายงานอยู่ไหน “
ยกมือไหว้ .. ขอโทษค่ะพี่ ...รีบส่งรายงานให้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
“ พี่เลื่อนประชุมไปเป็น 10 โมงนะ เดี๋ยวช่วยไปหาอะไรให้พี่กินหน่อยสิ “

... ได้ค่ะพี่ ...
วิ่ง เข้าห้องครัว หยิบโจ๊กกึ่งสำเร็จรูป รีบ รีบ รีบ เติมน้ำร้อน ..
ว๊า !! น้ำร้อนลวกมือ ..
มาแล้วค่ะพี่ โจ๊กร้อนๆเลยค่ะ....

ออกจากห้องประชุมเกือบเที่ยง แม่โทรมาจากบ้าน
“ เมื่อเช้า.. หนูวางผ้าเช็ดหน้าไว้ตรงไหนลูก แม่หาในตะกร้าไม่เจอ
จะเอา ไปซักน่ะ “
หาไม่เจอก็ไม่ต้องซักหรอก หนูจำไม่ได้ คงโยนไว้ที่ไหนน่ะแหละ

เมื่อ เช้าหนูรีบ .......
“ ไม่เป็นไรลูก แล้วเย็นนี้..กลับกี่โมง มากินข้าวกับแม่นะ ”
ยังไม่รู้หรอกแม่ ว่างานเสร็จเมื่อไหร่
ยัง งัย..แม่กินไปก่อนเลยแล้ว กัน ไม่ต้องรอ .....
วางหูโทรศัพท์ ก้มหน้า ก้มตาทำงาน เอาใจเจ้านาย ....

“ เอ!! พี่วางบัญชีรายชื่อลูกค้าทิ้งไว้แถวนี้มั่งรึเปล่า

ไม่รู้ไปลืมไว้ ที่ไหน หาไม่เจอ..
ไม่เป็นไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูช่วยหา
พี่ลงไปทานข้าว เถอะค่ะเที่ยงกว่าแล้วนะคะ
... หา หา หา หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
โธ่..พี่ ขา ก็พี่มาทำหล่นไว้ใต้เก้าอี้ในห้องประชุมนี่นา
โอย !! เที่ยงครึ่งแล้ว ลงไปกินข้าวไม่ทันแน่ๆ
ไม่เป็นไร..บะหมี่ซักห่อพออิ่มก็แล้วกัน

... พี่คะ
เจอแล้วนะคะ พี ่ทำหล่นไว้ที่ห้องประชุมค่ะ
“ อ้าว..เหรอ “ รับเอกสาร?ืน ไม่มีแม้แต่ขอบใจสักคำ
แต่ฉันกลับปลื้ม ที่ทำให้เจ้านายพอใจได้ ใกล้เลิกงานแล้ว.. รีบกลับบ้านไปนอนดีกว่า
“ ช่วยแก้งานตรงนี้ให้พี่หน่อยนะ เสร็จแล้ววางไว้บนโต๊ะพี่เลย

พี่กลับ ก่อนล่ะ ว่าแต่ว่า เราน่ะมีธุระอะไรรึเปล่า คงต้องกลับช้านิดนึงนะวันนี้ “
.. ยิ้มรับ.. ไม่มีธุระอะไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูพิมพ์ให้เลยค่ะ
โทรหาเจ้านาย ตอนเกือบทุ่ม .. พี่ขา หนูแก้ไข

และตรวจทานเรียบร้อยแล้วค่ะ หนูวางไว้บนโต๊ะนะคะ

“ กลับดึกจังลูก จะอาบน้ำก่อน หรือ กินข้าวก่อนล่ะ ?? “
... เงียบไม่มีเสียงตอบ
ไม่มีรอยยิ้ม ...
“ มา มา แม่ช่วย “ แม่รวบของจากมือฉันไปวางบนโต๊ะ ..
หนูเหนื่อยมากเลยแม่
หนู อยากพักผ่อน
กำลังจะเดินขึ้นห้อง ..
ฮัลโหล..สวัสดีค่ะ...เจ้านายเหรอ คะมีอะไรรึเปล่าคะ ..
อ๋อ !! ไม่ยุ่งค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการให้เลยค่ะ
กุลี กุจอ เปิดคอมพิวเตอร์ ... เจ้านายคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ

แม่..หายไปไหน ในครัวไม่มี ห้องนอนไม่มี
. . . แม่นั่งอยู่หลังบ้านเหงา ๆ คนเดียว . . .


แม่แอบร้องไห้ ... เ พราะฉันสินะ ฉันทำให้แม่ต้องร้องไห้
แม่..ดูแลฉันมาทั้งชีวิต
เป็นห่วงฉัน รักฉันมากกว่าใครๆ
แต่..ฉันตอบแทนได้สาสมเหลือเกิน
ฉันเริ่มทบทวน... เจ้านายคนที่ให้เงินเดือนฉัน

กับ แม่คนที่ให้ความเป็นคนแก่ฉัน
เพื่อประจบสอพลอเจ้านาย ฉันทำร้ายผู้ให้กำเนิดได้เพียงนี้เลยหรือ...

แม่ ...
หนูขอโทษ

ใคร
??? เคยเป็นแบบฉันบ้าง ......
คติเตือนใจ[ดีมากๆ]
7:00 AM | Author: MoOkie Yupster



1. นึกว่าเสมอว่าการโกรธ 1 นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับเธอ 3 ชั่วโมง
2. ถ้ายิ้มให้กับคนที่อยู่ในกระจก รับรองว่าเค้าต้องยิ้มตอบกลับมาทุกครั้งแน่!
3. หลับตานิ่งๆ ซัก 3 นาที เมื่อรู้สึกว่าอะไรตรงหน้ามันช่างยากจัง
4. ระหว่างแปรงฟันถ้าฮัมเพลงด้วยไปจนจบจะทำให้ฟันสะอาดขึ้น 2 เท่าแน่ะ
5. เคี้ยวข้าวแต่ละคำให้ช้าลง จากที่รสชาติธรรมดาก็จะอร่อยขึ้นเยอะ



6. ควรหัดพูดคำว่า “ไม่เป็นไร” ให้เคยปากมากกว่าการพูดคำว่า “จะเอายังไง”
7. สัตว์เลี้ยงที่บ้านเก็บความลับเก่ง เรื่องที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้จึงเล่าให้มันฟังได้
8. อาหารที่ไม่ชอบกินตอนเด็ก ลองตักเข้าปากอีกที เผื่อจะกลายเป็นอาหารจานโปรด
9. เขียนชื่อคนที่เธอเกลียดใส่กระดาษแล้วฉีกทิ้งความเกลียดจะเบาบางลงเรื่อยๆ
10. ให้ปล่อยน้ำตาไหลโดยไม่ต้องเช็ด เมื่อน้ำตาแห้ง จะดูไม่ออกว่าเพิ่งร้องไห้มา




11. ก่อนจะซื้ออะไรก็ตาม ต้องคิดหาประโยชน์ของมันให้ได้อย่างน้อย 3 ข้อก่อน
12. ถึงเสื้อกางเกงในตู้จะมีอยู่น้อย แต่ถ้าสลับกันไปเรื่อยๆก็ดูเหมือนจะเยอะขึ้น
13. เลือกให้ของขวัญคนที่ไม่เคยได้ ดีกว่าคนได้เยอะจนจำชื่อคนให้ไม่หมด
14. ในวันที่รู้สึกเศร้าๆ เหงาๆ เดินไปซื้อดอกไม้ให้ตัวเองซักดอกแล้วจะดีขึ้น
15. แอบรักใครซักคน ยังไงก็ดีกว่าไม่เคยรู้ว่าความรู้สึก “รัก” เป็นยังไง




16. ถึงจะไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแต่งตัวสวยๆ หล่อๆ ไม่ได้นี่
17. พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบเล่มอาจไม่สนุกแต่มีประโยชน์แฝงอยู่
18. วันที่ตื่นเช้าๆ ให้บิดขี้เกียจนานที่สุดเท่าที่จะทำนานได้ ถ้าขี้เกียจออกกำลังกายน่ะ
19. รู้รึเปล่าว่าดอกไม้ที่บานอยู่กับต้น ยังไงก็อยู่ได้นานกว่าบานในแจกัน
20. ทะเลาะกับใครๆ พร้อมรอยยิ้ม เรื่องราวจะจบง่ายกว่าที่คิดเยอะ




21. เอารูปตัวเองตอนเด็กๆ มาดูตอนเครียดอารมณ์จะดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
22. พยายามหาข้อบกพร่องของคนที่เธออิจฉาอย่างน้อยก็มีข้อปลอบใจตัวเองบ้าง!
23. โทรไปหาแฟนแล้วพูดแคคำเดียวว่า “คิดถึง” พอวางสายแล้วต้องยิ้มทั้งคู่
24. ในวงสนทนาถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะคุยอะไรรอยยิ้มช่วยแก้สถานการณ์ได้
25. ค่อยๆ เดินทอดน่องแบบสบายๆ ในวันที่ไม่มีธุระให้ต้องไปสะสาง


26. ซื้อของฝากทุกคนในบ้าน ก็เหมือนกับการซื้อของฝากตัวเองนั่นแหละ
27. จะหน้าตายังไงก็แล้วแต่ ถ้าทิ้งขยะลงพื้นก็กลายเป็นขี้เหร่ได้ทันตาเห็น
28. นั่งสมาธิให้นานๆ และบ่อยๆ ก็ทำให้ผิวสวยขึ้นได้เหมือนกัน
29. นอกจากตอนที่เคี้ยวข้าวแล้ว ไม่ว่าก่อนหรือหลังกินก็หัวเราะได้อร่อย
30. จินตนาการถึงเรื่องที่อยากมีหรืออยากเป็นคือยานอนหลับอย่างหนึ่ง




31. อ่านหนังสือหรือการ์ตูนโปรดเป็นการเติมน้ำมันให้ตัวเองอย่างดี
32. ยังไม่มีใครเคยแย้งว่า การอาบน้ำไม่สามารถคลายเครียดได้จริงๆ
33. ก่อนจะด่าใครให้นับ 1 ถึง 50 เผลอๆ อาจจะไม่อยากด่าแล้วก็ได้
34. ไม่ต้องทำยังไงกับเพื่อนที่หักหลังก็แค่อย่าเรียกเค้าว่าเพื่อนก็พอแล้ว
35. รักครั้งแรกส่วนใหญ่ก็อกหักทั้งนั้น น่าจะดีใจที่ไม่แปลกกว่าชาวบ้านเค้า




36. การที่ทำของหายอาจเป็นการใช้หนี้ของชาติที่แล้วให้คนอื่นที่เก็บมันได้
37. ถึงจะไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าซักบาท ยังดีกว่าไม่มีเสื้อผ้าให้ใส่ตั้งเยอะ
38. หนี้ที่โดนเบี้ยวไป ทำให้เรารู้จักใครบางคนดีขึ้นโดยไม่ต้องใช้เวลามาก
39. คนอื่นไม่เข้าใจเราไม่เห็นแปลก ในเมื่อเราก็ไม่เข้าใจคนอื่นเหมือนกัน
40. ไม่ต้องช่วยใครๆ ด่าตัวเอง ถ้าสิ่งที่ทำไปแน่ใจว่าพยายามเต็มที่แล้ว




41. วิ่งให้เหนื่อยมากๆ ความโกธรจะได้ถูกขับออกมาพร้อมกับเหงื่อ
42. ถ้ากลัวจะนอนฝันร้าย สวดมนต์ก่อนนอนเหมือนตอนเด็กๆ ดูสิ
43. ของฝากสำหรับคนห่างไกล คือการโผล่ไปเซอร์ไพรส์ด้วยตัวเอง
44. เพลงจังหวะมันๆ ทำให้คนฟังกระปรี้กระเปร่าได้โดยอัตโนมัติ
45. อย่าเดาว่าอะไรอยู่ในกล่องของขวัญ แล้วจะไม่รู้จักคำว่าผิดหวัง
การดูดวงแบบอินเดีย
7:05 AM | Author: MoOkie Yupster
แต่ดูดวงแบบไทยๆ มานานแล้ว ลองเปลี่ยนสไตล์ไปดูดวงแบบอินเดียกันบ้าง รับรองว่าแม่นยำไม่แพ้กัน

อัศวินี (13 - 26 เมษายน)
เป็น คนแข่งแกร่ง มีอำนาจ และมองหาความท้าทายให้ชีวิตอยู่เสมอ มีบุคลิกร่าเริงแจ่มใส งดงาม เฉลียวฉลาด และเปิดเผย แต่กระนั้นก็มีความลึกลับอยู่ในตัวทำให้เป็นคนเข้าใจยาก ในเรื่องความรักคุณกำลังมองหาคู่ที่เพียบพร้อมและสมบูรณ์ แบบ แต่ตัวคุณเองมักไม่พร้อมที่จะมีพันธะ
สัญลักษณ์: หัวม้า หมายถึงแจ่มใส
ราศีเนื้อคู่: ภรณี
สี: แดงเข้ม

ภรณี (27 เมษายน - 10 พฤษภาคม)
เป็น คนมีเสน่ห์ทางเพศ ชื่นชมความงามและศิลปะทุกรูปแบบ แต่ต้องระวังอย่าหมกมุ่นในเรื่อง เพศมากเกินไป บางครั้งอาจจะก้าวร้าวและดูเหมือนเห็นแก่ตัว จึงต้องหาคู่ที่ไม่กลัวการผูกมัดและสามารถสนองตอบความต้องการทางโล กียและเพศ รสได้
สัญลักษณ์: โยนี (อวัยวะเพศหญิง) หมายถึงมีเสน่ห์ทางเพศ
ราศีเนื้อคู่: อัศวินี
สี: แดงเข้ม

กฤติกา (11 - 24 พฤษภาคม)
เป็น คนทุ่มเท ฉลาด และสุขุมเยือกเย็นยามเกิดวิกฤต แต่ก็มักโมโหง่ายและถึงแม้จะไม่ชอบการเผชิญหน้า แต่ก็สู้ไม่ถอยเมื่อถึงเวลา เป็นคนที่เปิดกว้างต่อโลกภายนอกแต่ก็เคร่งครัดในศาสนาในเวลาเดียวกัน และถึงเเม้จะกำลังตามหารัก ก็ยังคงกลัวการผูกมัดอยู่ดี
สัญลักษณ์: ใบมีด หมายถึงไฟ
ราศีเนื้อคู่: เชษฐา
สี: ขาว

โรหิณี (25 พฤษภาคม - 7 มิถุนายน)
เป็น คนอ่อนไหว เปลี่ยนแปลงตัวเองได้รวดเร็ว เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ แต่ก็มีเสห่ห์ และชอบความสุขสบาย อาจเป็นคนขี้หึงจึงเจ็บปวดได้ง่าย ดูจากภายนอกอาจจะเป็นคนไม่ผูกพันกับใคร แต่ลึก ๆ แล้วใฝ่หาความรักสุดตัวทีเดียว
สัญลักษณ์: ล้อรถ หมายถึงความงาม
ราศีเนื้อคู่: อนุราธ
สี: ขาว

มฤคศิร (8 - 20 มิถุนายน)
เป็น คนเข้มแข็ง ฉลาดเป็นกรด และหัวไวอีกต่างหาก ทุ่มเถียงทะเลาะกับใครก็ต้องชนะให้ได้ เกิดมา เป็นผู้นำ และชอบมีอำนาจเหนือผู้อื่น คุณต้องการคู่ชีวิต แต่มีเพียงคนที่คุณต้องการจริงๆ เท่านั้นที่จะกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาของคุณได้
สัญลักษณ์: ศีรษะกว้าง หมายถึงสติปัญญา
ราศีเนื้อคู่: หัฏฐะ
สี: เงิน

อารทรา (21 มิถุนายน - 4 กรกฏาคม)
เป็น คนประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นที่ชื่นชอบของใครๆ จึงมักวุ่นวายอยู่เสมอ และมักให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของคนอื่นมาก เสียจนละเลยความคิดตัวเองไป ความที่ชอบฟังคำซุบซิบและชอบออกงานสังคม อาจทำให้คุณดูเหมือนคนมีความคิดตื้นเขิน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่คนแบบนั้นเลย คุณยอมสละได้ทุกอย่างเพียงเพื่อทำให้ฝันเป็นจริง
สัญลักษณ์: เพชร หมายถึงนักยุทธศาสตร์
ราศีเนื้อคู่: มฤคศิร
สี: เขียว

ปุนัพสุ (5 - 18 กรกฎาคม)
เป็น คนน่ารัก ห่วงใยและใส่ใจผู้อื่น คุณจะต้องตั้งเป้าหมายและทะยานไปสู่ความสำเร็จเสมอไม่อย่าง นั้นจะรู้สึกว่า ตัวเองขาดหลักในชีวิต คุณอยากมีครอบครัวใหญ่ๆ แต่ถ้าไม่มีก็จะพยายามเข้าใกล้กลุ่มคนที่เปิดโอกาสให้คุณได้ใช้ สัญชาตญาณ ความเป็นแม่ แต่ระวังบรรดาคู่รักของคุณจะเซ็งเสีย ก่อน
สัญลักษณ์: คันธนู หมายถึงความเป็นแม่
ราศีเนื้อคู่: ภรณี
สี: เทา

ปุษยะ (19 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม)
เป็น คนขยัน ทุ่มเทให้กับการทำงาน และมีความสามารถในการปั้นความคิดให้เป็นความจริงขึ้นมา หากวางแผนดีๆ ก็จะประสบความสำเร็จในการงานได้ไม่ยากนัก สำหรับคุณ การแสดงความรู้สึกอาจจะเป็นเรื่อง ยาก แต่ก็ต้องพยายามหน่อย ไม่เช่นนั้นคู่ของคุณอาจจะรู้สึกว่าเขาหรือเธอ ไม่เป็นที่ต้องการก็ได้
สัญลักษณ์: ดอกไม้ หมายถึงสีสัน สดุดตา
ราศีเนื้อคู่: อัศวินี / อาศเลษา
สี: แดงและดำ

อาศเลษา (2 - 15 สิงหาคม)
อาจ จะดูเป็นคนขี้เกียจ แต่จริง ๆ แล้วสมองไว ไม่เคยหยุดนิ่ง รักอิสระ และอาจจะรักสันโดษด้วย รักความสงบ ไม่บ่อยนักที่จะโกรธใครแต่ใครมาแหยมเป็นเจอดี และแม้ว่าจะเป็นคนขึ้หึง ก็ไม่ได้อยากให้คู่ของคุณมีนิสัยอย่างเดียวกัน
สัญลักษณ์: งูพิษ หมายถึงอำนาจสะกดใจ
ราศีเนื้อคู่: บุษยา
สี: แดง

มาฆะ (16 - 29 สิงหาคม)
เป็น คนฉลาด เอาตัวรอดเก่ง ร่าเริงแจ่มใส ใครเห็นใครปิ๊ง เป็นผู้นำที่ใจดี แต่แฝงด้วยความเข้มแข็ง ข้อดีเหล่านี้ทำให้คนมากมายชื่นชนคุณ แต่ขณะเดียวกันก็มีคนคอยอิจฉาด้วย คุณมีความสุขดีอยู่กับชีวิตรัก แต่คนรักในอุดมคติของคุณนั้นค่อนข้างจะหา ยากทีเดียว
สัญลักษณ์: วอ หมายถึงชื่อเสียง
ราศีเนื้อคู่: เชษฐา
สี: ครีม

บุรพผลคุนี (30 สิงหาคม - 12 กันยายน)
เป็น คนอบอุ่น มีเสน่ห์ และดวงดี คุณทำงานหนัก แต่ก็รู้จักหาความสุขกับชีวิต ความกระตือรือร้นที่มีอยู่เต็มเปี่ยมจะนำคุณไปสู่ความสำเร็จ นอกจากนี้ คุณยังเป็นคนจริงใจไม่โกหก รสนิยมคุณนั้นเลิศหรูนัก มักจะเป็นสีสันให้กับงานเลี้ยงเสมอๆ คุณอยากให้ตัวเองและคู่มีเป้าหมายเดียวกันและเคียงข้างกันก้าวไปสู่เป้าหมาย ที่ตั้งไว้
สัญลักษณ์: เตาผิง หมายถึงโชค
ราศีเนื้อคู่: มาฆะ
สี: น้ำตาล

อุตรผลคุนี (13 - 25 กันยายน)
เป็น คนมนุษยสัมพันธ์ดี หนักแน่น และเกิดมาเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง เป็นเจ้าแห่งยุทธวิธี และเป็นนักวาง แผนที่ดีแต่ความรู้สึกไม่ค่อยมั่นคงและตึงเครียด อาจทำให้คุณประพฤติตนไร้เหตุผล เกิดความประหม่า และไม่มั่นใจได้ คุณคอยเป็นกำลังใจให้คู่ของคุณเสมอ และก็หวังให้เขาหรือเธอเห็นคุณค่าของสิ่งที่คุณทำ และตอบแทนคุณด้วยความรัก
สัญลักษณ์: ขาเตียง หมายถึงสู้ชีวิต
ราศีเนื้อคู่: บุรพผลคุนี
สี: ฟ้าสดใส

หัฏฐะ (26 กันยายน - 9 ตุลาคม)
เป็น คนมีเสน่ห์และน่าสนใจ แต่ก็อารมณ์เสียได้ง่ายๆ คุณทะเยอทะยานและเป็นเจ้าของชะตาชีวิตของตัวเอง บางครั้งอาจจะดูเหมือนเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่จริงๆ แล้วคุณเป็นคนใจกว้างกว่าใครๆ เมื่อคุณตกลงปลงใจกับคู่ของคุณแล้ว คุณจะดูแลเอาใจใส่เขาหรือเธอ เป็นอย่างดี และจะเป็นผู้ให้ที่แสนอารี
สัญลักษณ์: ฝ่ามือ หมายถึงการฝึกตนด้วยโยคะ
ราศีเนื้อคู่: มฤคศิร
สี: เขียว

จิตรา ( 10 - 22 ตุลาคม)
เป็น คนชอบเข้าสังคม รักชีวิตกลางแจ้ง และชอบเมาต์เป็นชีวิตจิตใจ คุณอาจจะดูมีความสุขกับการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ และหาเพื่อนใหม่ได้ง่ายๆ แต่โดยธรรมชาติของคุณแล้ว คุณรักความสันโดษ แม้จะอยากใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคนแค่ไหน แต่คุณก็ไม่เคยทุ่มให้เขาหรือเธอเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ได้สักที
สัญลักษณ์: ไข่มุก หมายถังความงาม
ราศีเนื้อคู่: หัฏฐะ
สี: ดำ

สวาตี (23 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน)
เป็น คนแอกทีฟ ไม่เคยอยู่นิ่ง แต่มักจะตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำอะไรเป็นสิ่งต่อไป เพราะอยากทำอะไรๆ เต็มไปหมดถึงแม้ว่าคุณมีอุดมการณ์ เป็นแรงบันดาลใจและเป็นพลังขับเคลื่อน แต่คนชอบหาว่าคุณเป็นจอมบงการ จริงๆ คุณก็แค่มีความมุ่งมั่นเท่านั้นเอง ส่วนในด้านความรัก พันธะทางใจต่อกันนับเป็นคุณสมบัติสำคัญที่สุดสำหรับ คู่รักในอุดมคติของคุณ
สัญลักษณ์: ปะการัง หมายถึงความทะเยอทะยาน
ราศีเนี้อคู่: ภรณี
สี: ดำ

วิสาขะ (6 - 18 พฤศจิกายน)
เป็น คนทะเยอทะยาน แต่ใช่ว่าความสำเร็จทางด้านวัตถุจะทำให้คุณพอใจเสมอไป หากต้องการเติมชีวิต ให้เต็มอาจจะต้องเปลี่ยนการมองโลกเสียใหม่ ข้อดีของคุณก็คือ สามารถเข้ากับคนได้ทุกระดับ มีความสนใจในสิ่งต่างๆ หลากหลายและแม้ว่าคุณยอมรับการผูกพันกับใครคนหนึ่ง แต่คุณก็ยังคงต้องการความเป็นส่วนตัวอยู่บ้าง
สัญลักษณ์: แท่นปั้นหม้อ หมายถึงความหวัง
ราศีเนื้อคู่: จิตรา
สี: ทอง

อนุราธ (19 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม)
คุณ เป็นคนที่มีความขัดแย้งอยู่ในตัว บางครั้งคุณอาจจะสนใจในเรื่องของจิตวิญญาณ แต่ก็วัตถุนิยมแบบสุดขั้วใจดีก็ได้ ใจร้ายก็บ่อย สร้างเสียงหัวเราะให้คนรอบข้างได้ในนาทีหนึ่ง แต่ก็กลับหดหู่ซึมเซาในนาทีถัดมา ดังนั้นคุณจึงไขว่คว้าหาทางสายกลางอยู่ตลอดเวลา คุณกำลังตามหารักแท้ และก็พร้อมจะสละทุกสิ่งเพื่อมัน
สัญลักษณ์: ดอกบัว หมายถึงความรัก
ราศีเนื้อคู่: เชษฐา
สี: น้ำตาลแดง

เชษฐา (2 - 14 ธันวาคม)
คุณ เป็นคนร่าเริง ทะเยอทะยาน ต้องการประสบความสำเร็จในสิ่งที่คนอื่นไม่เคยทำได้มาก่อน และเชื่อได้เลยว่าคุณจะทำสำเร็จ หากมีวินัยในตัวเองมากพอ คุณเชื่อมั่นในเรื่องจิตวิญญาณ แต่ก็นิยมยินดีกับเพศรส บางครั้งอาจจะประหม่า แต่ต้องแสดงออกว่ามั่นใจเอาไว้ก่อน นอกจากนี้คุณยังขี้หึง ในขณะที่ตัวเองเป็นคนหลายใจ คุณต้องการคู่ที่ทำหน้าที่คู่สนทนาได้อย่างชาญฉลาด
สัญลักษณ์: ตุ้มหู หมายถึงความสง่างาม
ราศีเนื้อคู่: มาฆะ
สี: ครีม

มูละ (15 - 27 ธันวาคม)
ทดลอง ของใหม่ๆ อยู่เสมอ และยังเป็นผู้นำที่มองโลกในแง่ดีอีกด้วย คุณเป็นคนเบื่อง่าย แต่เพราะว่า เป็นคนปรับตัวเก่ง จึงลุกขึ้นมาเปลี่ยนอะไรๆ ได้เมื่อสิ่งต่างๆ รอบตัวนั้นดูราบเรียบเกินไป ความสัมพันธ์ระหว่างคุณและ คู่จะเป็นไปได้ด้วยดี ตราบใดที่เขาหรือเธอยอมให้คุณเป็นตัวของตัวเองต่อไป
สัญลักษณ์: หางสิงโต หมายถึงความไม่หยุดนิ่ง
ราศีเนื้อคู่: บุพพาสาฬหะ
สี: เหลืองมีสตาร์ด

บุรพสาฬหะ (28 ธันวาคม - 10 มกราคม)
เป็น สร้างสรรค์ เฉลียวฉลาด และมีปัญญา หากคุณได้ทำงานที่ตรงกับความสามารถแล้วล่ะก็ ทุกอย่างจะผ่านฉลุย และผลที่ได้ก็จะเป็นที่น่าพอใจ คุณเปลี่ยนตัวเองไปได้เรื่อยๆ แต่อาจจะพบความยุ่งยากหากคู่ของคุณไม่ยอมเปลี่ยนตามไปด้วย
สัญลักษณ์: งาช้าง หมายถึงบุคลิกที่โดดเด่น
ราศีเนื้อคู่: เรวดี
สี: ดำ

อุตตราสาฬหะ ( 11 - 23 มกราคม)
เป็น คนกระฉับกระเฉง สมองดี เข้าขั้นปัญญาชน ทำสิ่งที่ตั้งใจและไล่ตามความฝันได้โดยไม่ย่อท้อ คุณเกลียดการหลอกลวงและคนโกง และจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะได้ทำลายคนพวกนี้ให้สิ้นซาก หนึ่งในความต้องการของคุณคือการได้อยู่คนเดียว ดังนั้นความสัมพันธ์ของคุณอาจจะซับซ้อนและยุ่งยากกว่าคนอื่น
สัญลักษณ์: ขาเตียง หมายถึงการสันโดษ
ราศีเนื้อคู่: อุตตรภัทรบท
สี: ทองแดง

ศรวณะ (24 มกราคม - 5 กุมภาพันธ์)
คุณ มีสมองเฉียบแหลมราวมีดโกน และรูปลักษณ์ภายนอกอันแข็งแกร่งไว้เพื่อเป็นเกราะป้องกันตัว คุณถวิลหาความสงบท่ามกลางสรรพเสียงแห่งชีวิต แต่ก็เป็นผู้ฟังที่ดีและเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาให้ผู้อื่นคู่ของคุณ จะต้อง เคารพเงื่อนไขที่คุณตั้งไว้ และจะต้องเข้าใจด้วยว่าบางครั้งคุณก็ต้องการอยู่คนเดียว
สัญลักษณ์: หู หมายถึงความเงียบ
ราศีเนื้อคู่: อุตตรภัทรบท
สี: ฟ้า

ธนิษฐา (6 - 18 กุมภาพันธ์)
เกิด มาพร้อมพรพิเศษในทางสายธรรม แต่ก็ใช่ว่าจะทิ้งเรื่องทางโลกย์ คุณมีความสามารถรอบด้าน บุคลิก โดดเด่น มีสง่า ผ่องใส และไม่เห็นแก่ตัว คู่ของคุณอาจจะรู้สึกว่าคุณทำตัวห่างเหิน แต่หากคุณพบคู่ที่วาดฝันไว้แล้วล่ะก็ คุณจะซื่อสัตย์กับเขาหรือเธออย่างที่สุด และโชคของคุณที่คนรอบข้างยอมรับข้อเสียหลายอย่างของคุณได้
สัญลักษณ์: ขลุ่ยหรือกลอง หมายถึงดนตรี
ราศีเนื้อคู่: ศตภิษัช
สี: เงิน

ศตภิษัช (19 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม)
เป็น คนยึดมั่นในหลักการ ดูลึกลับในบางครั้ง และชอบตั้งเป้าหมายที่ไกลเกินเอื้อมให้กับตัวเอง คุณมองการณ์ไกลแต่ขาดความมั่นใจ ต้องการมีความสัมพันธ์ที่น่าตื่นเต้น แต่ฝ่ายตรงข้ามจะรู้ได้อย่างไรหากคุณไม่เริ่มต้นส่งสัญญาณให้เขาหรือเธอรับ รู้เสียก่อน
สัญลักษณ์: ดวงดาว หมายถึงความรู้แจ้ง
ราศีเนื้อคู่: ธนิษฐา
สี: เขียวอ่อน

บุรพภัทรบท (4 - 16 มีนาคม)
คุณ เป็นคนอ่อนไหว และห่วงใยคนรอบข้าง ทำให้คนมากมายเข้ามาขอคำปรึกษาจากคุณ ถึงแม้ตอนนี้คุณจะประสบความสำเร็จทางด้านวัตถุแล้วก็ตาม คุณก็ควรวางแผนการเงินของคุณให้ดี นอกจากนี้คุณมักจะมองคนข้างกายในแง่ดีเกินจริง และเมื่อพูดถึงความสัมพันธ์แล้ว คุณอาจจะดูเหมือนเป็นฝ่ายที่ต้องพึ่งพา แต่จริง ๆ แล้วคุณเป็นคนที่พึ่งตัวเองได้โดยไม่ต้องง้อใคร
สัญลักษณ์: ดาบ หมายถึงสันติสุข
ราศีเนื้อคู่: อุตตร ภัทรบท
สี: เงิน

อุตตรภัทรบท (17 - 30 มีนาคม)
เป็น คนฉลาด ใจบุญ มีอุดมการณ์ และเคารพความฝันของผู้อื่น คุณเชื่อในโชคชะตา และมักมีความรู้สึกไม่ อยากยุ่งเกี่ยวผูกพัน ไม่ยึดติดกับสิ่งต่างๆ ในชีวิต คุณจะเป็นครูที่ดีได้ถ้าเลือกจะไปทางนั้น คุณมักจะพยายามประคองความสัมพันธ์ให้อยู่รอด แต่ถ้ามันไม่งอกงาม คุณก็จะตัดใจและก้าวไปข้างหน้าต่อไป
สัญลักษณ์: ฝาแฝด หมายถึงความมืดที่งดงาม
ราศีเนื้อคู่: เรวดี
สี: ม่วง

เรวดี (31 มีนาคม - 12 เมษายน)
คุณ เป็นคนมีจิตใจเมตตา ห่วงใยผู้อื่น และอ่อนไหว คุณอุทิศตัวเพื่อประโยชน์ส่วนรวม แต่เป็นประเภทปิดทองหลังพระ คุณเป็นคนมีความงาม แต่ขาดความมั่นใจ คุณต้องเรียนรู้ที่จะศรัทธาและไว้ใจคนอื่นบ้าง สำหรับเรื่องความรัก คุณเป็นคนโรแมนติก จึงต้องการคนที่เข้าใจว่าลึกๆ แล้วคุณต้องการอะไร
สัญลักษณ์: ปลา หมายถึง ความบริสุทธ์
ราศีเนื้อคู่: อุตตรภัทรบท
สี: น้ำตาล



ที่มา:  เมเนเจอร์เรดิโอ ดอท คอม
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
choc_1.jpg
ดาวน์โหลด (36.6 KB)
17-8-2010 21:33



ลองให้เขาเรียงลำดับก้อนช็อกโกแลตดูนะคะ โดยมีทั้งหมด 3 ชิ้นแต่ละชิ้นใหญ่เล็กไม่เท่ากัน และให้เขาเลือก 1 ชิ้นว่า เขาจะเลือกชิ้นใดก่อน โดยช็อกโกแลตทั้ง 3 มีรายละเอียดดังนี้

      ชิ้น A - ชิ้นเล็ก

      ชิ้น B - ชิ้นใหญ่

      ชิ้น C - ชั้นกลาง


ถ้าเขาเลือกชิ้น A ก่อน แสดงว่า เขาเป็นคนที่ไม่ทะเยอทะยาน ค่อนข้างระมัดระวังตัว ทำสิ่งต่าง ๆ โดยไม่ชอบเสี่ยงอะไร

         
ถ้าเลือกชิ้น B ก่อน เป็นคนที่ทะเยอทะยาน ไม่ยอมแพ้โชคชะตา ถ้าคิดจะทำอะไร ต้องทำให้ได้ และต้องทำให้ได้ดีเสียด้วย มีเป้าหมายในชีวิตค่อนข้างสูงทีเดียว


ถ้าเลือกชิ้น C ก่อน เป็นคนง่าย ๆ ไม่จริงจังกับชีวิต ใช้ชีวิตแบบพอเพียงมากกว่า
66551.jpg


เดลิเมล์- ผู้เชี่ยวชาญเตือนแทนที่จะช่วยสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง แต่แปรงสีฟันอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้มากกว่า ที่คิด

     ในหนังสือเล่มใหม่ ‘เหตุใดแปรงสีฟันจึงอาจฆ่าคุณได้?' เจมส์ ซองนักเคมีจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน สหรัฐฯระบุว่าแปรงสีฟันที่ใช้งานนานเกินไปถือเป็นหนึ่งใน วัตถุอันตรายในครัว เรือน และว่าปัญหาสุขภาพมากมาย เช่นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไขข้อ และการติดเชื้อเรื้อรังอาจเกี่ยวพันกับแปรงสีฟันที่ไม่ถูก สุขอนามัย

ตาม ทฤษฎีของซองนั้นดูเหมือน แบคทีเรียจำนวนมากจะซุกซ่อนอยู่ในแปรงสีฟันและ แบคทีเรียเหล่านี้เดินทางเข้าสู่กระแสเลือดของผู้ใช้โดยตรงผ่านรอยแผลเล็กๆ ที่เหงือกแบคทีเรียเหล่านี้บางส่วนเกี่ยวข้องกับการอุดตันของเส้นเลือด

แนว คิดนี้อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ผลการวิจัยเมื่อเร็วๆนี้ของมหา วิทยาลัยแมนเชสเตอร์ในอังกฤษ พบว่าแปรงสีฟันทั่วๆไปเป็นแหล่งอาศัยของเชื้อโรคประมาณ 10 ล้านตัวซึ่งรวมถึงแบคทีเรียอันตรายอย่าง staphylococci, streptococcus, E. coliและ candida

ขณะเดียวกัน สมาคมทันตกรรมแห่งอังกฤษ (บีดีเอ) สำทับว่าอันตรายยิ่งร้ายแรงขึ้นหากมีการใช้แปรงสีฟันร่วมกับคนอื่น

ดร.ทา เร็ก ไอดริส ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมตกแต่งจากฮาร์เลย์ สตรีทขานรับว่ามีการตรวจพบเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ, บี และซีในแปรงสีฟันและสปอร์ของไวรัสตับอักเสบบีสามารถอยู่รอดได้นานหลายเดือน นอกจากนั้นแปรงสีฟันเปียกชื้นยังเป็นแหล่งกบดานสมบูรณ์แบบของแบคทีเรียร้าย หลายชนิด

“เกือบจะเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์อย่างมากที่แปรงสีฟันถือเป็น วัตถุอันตรายในบ้านเราไม่ควรทิ้งแปรงสี ฟันไว้ในห้องน้ำแล้วใช้แล้วใช้อีก โดย ไม่ล้างให้สะอาดเสียก่อน” ไอดริสเสริม

นอกจากนั้น หลายคนยังทิ้งแปรงสีฟันไว้ในแก้วเดียวกับคนอื่น ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคติดต่อถึงกันหากแปรงสีฟัน สัมผัสกัน

ความ เสี่ยงที่แบคทีเรียในช่องปากจะเข้าสู่กระแสเลือดถูกตอกย้ำจากงานวิจัยเมื่อ ไม่นานมานี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเชื้อแบคทีเรีย porphy-romonas gingivalisซึ่งเป็นสาเหตุของโรคปริทันต์ ปรากฏอยู่ในเส้นเลือดที่อุดตันรุนแรง

การศึกษาของศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบียของสหรัฐฯที่เผยแพร่ออกมาในเดือนกุมภาพันธ์ระบุว่า แบคทีเรียในช่องปากของอาสาสมัครที่เป็นโรคหัวใจไปปรากฏอยู่ในหลอดเลือด หัวใจ เช่นเดียวกันแบคทีเรียนี้ยังเกี่ยวข้องกับการคลอดก่อนกำหนดและการที่ทารกมี น้ำหนักตัวแรกเกิดต่ำ

ไอดริสเสริมว่าการสะสมของแบคทีเรียร้ายในระบบ เลือด อาจส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและเขาเชื่อว่า ในอีก 10-15 ปีข้างหน้าเราอาจต้องฆ่าเชื้อแปรงสีฟันกันเป็นประจำ หรือใช้แปรงสีฟันแบบใช้แล้วทิ้ง

ด้วยข้อมูลทั้งหมดนี้ ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้เปลี่ยนแปรงสีฟัน อย่างน้อยทุกๆ 3เดือน ไม่ควรใช้แปรงสีฟันร่วมกับผู้อื่นขอคำแนะนำเรื่องการแปรงฟัน จากทันตแพทย์ งดใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็งเนื่องจากจะทำให้เหงือกเป็นแผลและกลายเป็น ช่องทางให้เชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือดและหาปลอกใส่แปรงสีฟันหากต้องเก็บไว้ใน ห้องน้ำ เป็นต้น
67506.jpg


1. ผ้าขี้ริ้วยอมสกปรกเพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด  เสน่ห์ของคนอยู่ที่ยอมลำบากเพื่อ ให้ผู้อื่นเป็นสุข พ่อแม่ยอมเหนื่อยเพื่อให้ลูก หลานอยู่สุขสบาย ความสุขแท้ของคนคือการได้ ยืนแอบยิ้มอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผู้อื่น

2. ผ้าขี้ริ้วดูดซับความสกปรกได้ แต่ก็สลัดความสกปรกออกจากตัวได้ตลอดเวลา
เสน่ห์ของคนอยู่ที่รู้ตัวเองว่าสกปรก ถึงเวลาต้องชำระล้างแล้ว มิใช่อมความสกปรกไว้แล้ว แกล้งบอกว่าตนเองสะอาด

3. ผ้าขี้ริ้วเป็นผ้าที่สะอาดที่สุด ในขณะที่คนมองว่าสกปรกที่สุด เหมือนคนที่ฝึกหัดขัดเกลาตนเองรู้จักถ่อมตนและอ่อนโยน ไม่โอหังอวดดีให้เป็นที่รังเกียจหมั่นไส้ของคนอื่น เขาจะเป็นคนที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะมาจากสกุลใด การศึกษามากหรือน้อยก็ตาม เป็นผู้ใฝ่รู้แต่ไม่อวดดี เหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทอง

4. ผ้าขี้ริ้วถึงจะเป็นผ้าไม่มีราคา แต่มีคุณค่ายิ่งใหญ่ได้ เหมือนคนที่พยายามทำตนให้มีคุณค่า ด้วยการทำงานมิใช่ด้วยการประจบ ทำตนให้มีประโยชน์ ให้มีค่า ไม่ใช่งอมืองอเท้า น้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาชะตาชีวิต ต้องสร้างกำลังใจให้ตนเองอย่ารอคอย จากคนอื่น

5. ผ้าขี้ริ้วไม่เกี่ยงงอนว่าจะถูกใช้เช็ดถูอะไร เหมือนคนที่ยอมตัวอาสาทำงานที่ได้รับมอบหมาย โดยไม่ปริปากบ่น รู้จักอาสาคน อาสาทำงาน ต้องตั้งใจทำงานโดยไม่เกี่ยงงอน ไม่ว่าจะเป็นงานใด ๆ ก็ตาม คนที่ตกงานเพราะไม่ยอมทำงาน

6. ผ้าขี้ริ้วยอมให้ถูกใช้งานในที่สกปรกที่สุด เหมือนคนที่ยอมทำในสิ่งที่คนทั้งหลายรังเกียจ ที่เขาเห็นว่าเป็นงานชั้นต่ำ แต่ก็ตั้งใจทำให้เป็นของมีค่าขึ้นมาได้ หรือยินดีในการบริการ เหมือนคนที่อิ่มเอิบเมื่อได้บริการรับใช้คนอื่น รับใช้สังคม ดีใจเมื่อคนยินดีมาใช้บริการความรู้ ความสามารถของตน และยินดีที่ได้เสนอตัวเข้าไปบริการมากกว่าเข้าไปบริหาร

7. ผ้าขี้ริ้วพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลัง ความสะอาด เหมือนคนควรพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลัง
ความ สำเร็จของคนอื่น ต้องมีความพอใจที่จะทำงานปิดทองหลังพระ เป็นนายอินหรือนางอิน ผู้ปิดทองหลังพระ มีความสุขและภูมิใจที่ได้มอบความสำเร็จให้คนอื่น มีมากที่ผู้น้อยบางคน ทำงานแล้วทำให้ผู้ใหญ่เล็กลง ขณะที่ตัวเองโตขึ้น

8. ผ้าขี้ริ้วทนทานต่อการขัดถูซักล้างไม่เปราะบาง เหมือนคนที่มีความอดทน
ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหา แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็อดทนได้ เพื่อให้สำเร็จ
ประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น มีจิตใจหนักแน่นไม่เปราะบางหักง่าย คือไม่เป็นคนทุกข์ง่ายใจเบา
แต่นิ่งและหนักแน่นคงดุจแผ่นดิน

9. ผ้าขี้ริ้วแม้จะถูกมองว่าเป็นผ้าขี้ริ้ว แต่ไม่ทำตัวให้ขี้เหร่ เหมือนคนที่รู้ตัวเองว่า
กำลังถูกึนปรามาสสบประมาท จะต้องตั้งใจเอาชนะอุปสรรค ครงนั้นให้ได้
ไม่พ่ายแพ้ต่อคำปรามาสของผู้อื่น รู้ตัวตลอดเวลาว่ากำลังทำอะไรและมีกำลังใจในสิ่งนั้น
มองเห็นคุณค่าจากสิ่งที่คนทั้งหลายมองว่าไร้ค่า เมื่อมีปัญหาให้หัดมองสองด้านเสมอ
ผ้าขี้ริ้วมีเสน่ห์เพราะยอมสัมผัสกับสิ่งสกปรก ชีวิตของคนเราก็เช่นกัน
หากทนความทุกข์ยากลำบาก ยอมสัมผัสกับงานที่ต่ำต้อยได้ก็จะมีเสน่ห์ และมีความหมาย ทุกคนจึงควรพากเพียรพยายามสร้างเสน่ห์ให้กับชีวิต อย่างที่ผ้าขี้ริ้วสร้างเสน่ห์ให้กับตนเอง

คุณเห็นด้วยไหม ที่ว่าเราต้องทำตัวเองให้มีคุณค่าและมองเห็นค่าของตัวเองก่อน
แล้วเราจะไม่รู้สึกท้อแท้หมดหวัง

67248.jpg
ดาวน์โหลด (116.87 KB)
20 ชั่วโมงก่อน



   1. ยอมรับว่ามันเกิดขึ้นแล้ว : ขอให้ตั้งสติและยอมรับว่าเรื่องนี้มันได้เกิดขึ้นกับเราแล้ว เพื่อที่จะได้กลับมาทบทวนหาหนทางแก้ไขต่อไป

   2. ปล่อยมันไป เมื่อทำใจได้แล้ว : เพราะถ้าหากเราคือเพชรแท้…อยู่ที่ไหนก็ยังคงเปล่งประกายวันยังค่ำ… ปล่อยให้พวกกรวด หิน ดิน ทราย ขี้อิจฉาทั้งหลายแพ้ภัยตัวเองกันไป แล้วกัน

   3. เอาชนะด้วยความดี : หากอยากจะเอาชนะศัตรู ก็จงเอาชนะด้วยความดี แล้วสักวันหนึ่ง เขาอาจจะเสียใจที่เคยคิดอิจฉาคนดีๆ อย่างเรา

    4. ทุ่มเทให้กับงาน : อย่ามัวแต่หมกมุ่นครุ่นคิดอยู่กับเรื่องจุกจิกพรรค์นี้ จนกลายเป็นอุปสรรคให้ต้องเสียงานเสียการ

     5. ปรับความเข้าใจ : ลองหาช่วงเวลาหมาะๆ เข้าไปนั่งจับเข่าคุยกัน เปิดอกเคลียร์ปัญหาด้วยการเริ่มต้นเจรจา อย่างสุภาพและต้องใจกว้างพอเมื่อ ถูก วิจ ารณ์จากคู่กรณี อย่าเพิ่งจี๊ดจนไฟออกหู ถ้าอยากปรับความเข้าใจกัน
คนชนะที่ล้มเหลว......
5:46 PM | Author: MoOkie Yupster
บทความดีๆ กับเรื่องดีๆ เก็บไว้เตือนตัวเองจร้าาา

1. ไม่รู้จักตนเอง
เพราะไม่รักตัวเอง จึงไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง
เพราะไม่รู้ศักยภาพของตัวเอง จึงไม่มีจุดยืนของตัวเอง
2. ไม่เข้าใจคนอื่น

จากหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 9 สิงหาคม 2553

เห็นว่าน่าสนใจครับ แบ่งมาอ่านกัน

สิ่งที่เรามักจะนึกเสียใจก่อนเสียชีวิต

โดย : รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์

   สัปดาห์นี้เปลี่ยนอารมณ์หน่อยนะครับ เพราะพอดีไปเจอบทความเรื่องหนึ่ง โดย Bronnie Ware ซึ่งเป็นนักเขียนอิสระอยู่ที่ออสเตรเลีย ดยนักเขียนผู้นี้เคยทำงานดูแลผู้ป่วยที่รู้ตัวว่าจะเสียชีวิตและกลับไปอยู่ ที่บ้านเพื่อรอวันตาย โดยเธอจะอยู่กับผู้ป่วยเหล่านี้ในช่วงสามถึงสิบสองสัปดาห์สุดท้ายก่อนที่ผู้ ป่วยจะเสียชีวิต
เรื่องนี้เป็น 1 ในเรื่องที่ดีที่สุดที่มุกชอบ และ เก็บไว้ในทุกๆบล็อคของตัวเอง     ...บางครั้งบางคราว ที่เราได้หลงลืมอะไรบางอย่างที่ ใกล้ตัว แต่ ไม่ใส่ใจ....

 

เมื่อฉันแก่ตัวลง